คลังบทความของบล็อก

22 พฤศจิกายน 2561

ยอดนักสืบในสมัยรัชกาลที่ 5


                                                        




มีข่าวลือว่า มีพระองค์เจ้า พระองค์หนึ่ง ชอบใช้ชีวิตแบบลูกผู้ชายทั่วไป ในเวลากลางคืนก็จะเสด็จไปโรงฝิ่น บ่อนการพนัน และร้านเหล้าต่างๆในย่านนางเลิ้ง โดยมีนักเลงโตย่านนางเลิ้งและสะพานเหล็กพร้อมกับลูกสมุนในแก็งค์อันธพาลคอยติดตามพระองค์อยู่เสมอ บางครั้งพระองค์ก็จะทรงนอนคุยกับคนสูบฝิ่นในโรงฝิ่น โดยไม่ถือพระองค์เลย

และเมื่อเจ้าพี่ เจ้าน้อง ในหมู่ราชวงศ์หลายพระองค์ได้ทรงทราบเรื่อง ก็ทรงกังวลพระหฤทัยว่า เหตุการณ์ดังกล่าว จะทำให้เสื่อมเสียถึงราชวงศ์ได้ จึงทรงนำเรื่องไปกราบทูลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นพระราชบิดา

แต่รัชกาลที่ 5 ยังทรงไม่เชื่อในเรื่องนี้ พระองค์ทรงอยากรู้ความจริงมาก จึงทรงปลอมพระองค์ (ปลอมตัว) เป็นราษฎรเพื่อเข้าไปทรงสืบเรื่องนี้ในโรงฝิ่น ในบ่อนการพนัน และในร้านเหล้าต่างๆในย่านนางเลิ้งด้วยพระองค์เอง

จนกระทั่งวันหนึ่งรัชกาลที่ 5 ทรงเสด็จไปตามโรงบ่อนและโรงฝิ่นต่าง ๆ ในย่านนางเลิ้ง พระองค์ได้ทอดพระเนตรเห็นพระราชโอรสของพระองค์ เสด็จออกมาจากโรงฝิ่น พร้อมกับนายเล่ นักเลงโตย่านนางเลิ้งแบบพอดิบพอดี ซึ่งถือว่า พระองค์ทรงจับพระราชโอรสของพระองค์ได้แบบคาหนังคาเขาเลย

จากนั้น รัชกาลที่ 5 และพระราชโอรสก็เสด็จกลับพระราชวังในทันที




และในขณะที่ประทับอยู่ในรถยนต์พระที่นั่ง พระราชโอรสได้ทรงกราบทูลโดยที่รัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นพระราชบิดา ยังไม่ทรงสอบถามอะไรเลยว่า

ที่พระองค์ทรงทำเช่นนี้ ก็เพราะต้องการสืบข่าวอยู่ตลอดเวลาว่า จะมีใครคิดจะทำร้ายเสด็จพ่อ หรือคิดกบฏต่อบ้านเมือง หรือมีการปล้นขโมยกันที่ไหนบ้าง จะได้หาทางป้องกันให้ทันท่วงที

ซึ่งรัชกาลที่ 5 ก็ไม่ได้ทรงต่อว่าสิ่งใดกับพระราชโอรสของพระองค์ เพราะการที่พระราชโอรสออกท่องเที่ยวไปตามเมืองและสถานที่ต่างๆนั้น ก็ถือว่าได้สร้างคุณประโยชน์ต่อราษฎรและบ้านเมืองมากมายด้วยเช่นกัน

เพราะพระมหากษัตริย์สยาม โดยเฉพาะพระองค์เอง (รัชกาลที่ 5) และพระบรมวงศานุวงศ์ในสมัยนั้น ก็ทรงชอบที่จะปลอมพระองค์เป็นชาวบ้าน เพื่อไปทรงสืบดูชีวิตและความเป็นอยู่ของราษฎรของพระองค์อยู่ตลอดเวลา และเมื่อพระองค์ได้ทอดพระเนตรเห็นถึงความยากลำบากที่แท้จริงของราษฎรว่าเป็นอย่างไร พระองค์จึงทรงมีโครงการต่างๆมากมาย เพื่อที่จะพัฒนาความเป็นอยู่ของราษฎรให้กินดีอยู่ดีมากยิ่งขึ้น รวมทั้งพัฒนาบ้านเมืองให้ทันสมัยตามแบบความเจริญของชาวตะวันตก

ซึ่งพระราชโอรสในรัชกาลที่ 5 ที่ทรงเข้าไปสืบข่าวตามโรงฝิ่นและบ่อนการพนันต่างๆในย่านนางเลิ้งก็คือ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ พระราชโอรสองค์ที่ 28 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และองค์ที่ 1 ในเจ้าจอมมารดาโหมด

พระองค์ทรงได้รับสมัญญานามว่า " องค์บิดาของทหารเรือไทย " และทรงได้รับการเชิดชูในหมู่ทหารเรือ ซึ่งจะเรียกพระองค์ว่า " เสด็จเตี่ย " หรือ พลเรือเอก พระบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์



พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์


ทำไม่ถึงเรียกพระองค์ท่านว่า "#เสด็จเตี่ย" ...

พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ ฯ ทรงได้รับ
พระราชทานพระอิสริยศักดิ์เป็นนายพลเรือตรี 
เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๔๗ และเป็น
กรมหมื่นชุมพรเขตอุดมศักดิ์เมื่อวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน
พ.ศ.๒๔๔๗ ระหว่างที่เสด็จในกรม ฯ ทรงรับราชการอยู่นั้น พระองค์ทรงมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย พระจริยวัตร ของพระองค์ที่ทรงมีลูกศิษย์และผู้ใต้บังคับบัญชานั้น ทำให้พระองค์ทรงเป็นที่รักเคารพนับถือ และศรัทธา เป็นอันมาก และเนื่องจากเหตุการณ์บน เรือหลวงพาลีรั้งทวีปและเรือหลวงมรูธาวสิตสวัสดิ์ 
ได้ออกทะเล นำนักเรียนนายเรือไปฝึกภาคปฏิบัติทางใช้การที่สัตหีบใน วันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๔๖๒

พลเรือโท ศรี ดาวราย ซึ่งเป็นนักเรียนนายช่าง
กลอยู่เรือหลวงพาลีรั้งทวีปในคราวนั้น เล่าว่า..

“การออกฝึกภาคในทะเลครั้งนั้น พลเรือเอก 
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ 
กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ขณะดำรงตำแหน่ง
เสนาธิการทหารเรือ เป็นผู้อำนวยการฝึกและประทับ
ที่เรือหลวงพาลีรั้งทวีปด้วย เช้าวันหนึ่งมีการขัด
หินทรายแล้ว ล้างเช็ดดาดฟ้าไม้ที่ท้ายเรือ 
พวกนักเรียนใหม่ ๆ ทำงานกันไม่เป็น เงอะงะเก้งก้าง
เป็นเวลาที่พระองค์ทรงยืนอยู่ ณ ที่นั้นด้วย 
ทอดพระเนตรแล้วคงจะสงสาร จึงได้ดำรัสกับ
นักเรียนว่า “#อ้ายลูกชายมานี่_เตี่ยจะสอนให้”
แล้วทรงทำงานให้ดูจนเสร็จ โดยมิได้ถือพระองค์เลย 
นักเรียนทั้งปวงจึงได้เคารพรักกันมาก และพากัน
เรียกพระองค์ว่า “เสด็จเตี่ย” จนถึงทุกวัน 








ที่มา/บางตอนในบทความ : "ทำไม......ทหารเรือถึงรัก.. กรมหลวงชุมพร ฯ มาก" 
บทความโดย พลเรือตรี กรีฑา พรรธนะแพทย์

นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๕ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๕
ขอขอบคุณเนื้อหาจาก    Ap Ple                                                                                         
ขอขอบคุณ ภาพจากเพจ เรื่องเล่าภาพเก่าในอดีต ,New  ,  ภาพจากเพจ คันฉ่องส่องไทย  History of Thailand




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น