ซานติก้า ผับมรณะ

 ท่ามกลางค่ำคืนที่สนุกสนานส่งความสุขส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่     นักท่องราตรีจำนวนมากต่างเดินทางเข้ามาร่วมฉลองในค่ำคืนส่งท้ายปีเก่ากันยัง ซานติก้าผับ สถานบันเทิงระดับแนวหน้าของคนรักสนุก    ในคืนวันเกิดเหตุมีความพิเศษอยู่ที่เป็นคืนอำลาของซานติก้าผับ ก่อนปิดให้บริการ   โดยมีการจัดคอนเสิร์ต    และแจกไฟเย็นให้เหล่านักเที่ยวได้ร่วมจุดฉลองกันในค่ำคืนนั้น   ใครจะรู้ว่าคํ่าคืนนี้จะเป็นคํ่าคืนสุดท้ายในชีวิตของใครหลายคน    เมื่อไฟได้ถูกจุดขึ้น และลุกลามไปตามโครงสร้างของอาคารที่ตกแต่งด้วยไม้เป็นหลักอย่างรวดเร็ว

กระทั่งภายในเวลาไม่กี่นาที   ความชุลมุนวุ่นวายก็เกิดขึ้นท่ามกลางเสียงตะโกนที่ดังขึ้น    “ไฟไหม้” เปลวเพลิง

ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว รุนแรง เสียงกรี๊ด เสียงร้องขอความช่วยเหลือดังระงมจนสับสน   ต้นเหตุการเกิดไฟไหม้ครั้งนี้นั้น  มาจากมีการยิงพลุกระดาษ    ไปติดสปอร์ตไลท์ด้านบนจึงเกิดประ  กายไฟและไฟไหม้ในเวลาต่อมา

เมื่อควันไฟพวยพุ่งออกจากผับ ผู้คนเบียดเสียดหนีตายอย่างชุลมุน บรรดาผีเสื้อราตรี ทั้งไทยและต่าง

ประเทศต่างเบียดเสียดหนีพระเพลิง  ที่กำลังฉายรัศมีแห่งความร้อนแรง   อีกทั้งม่านควันที่ที่กำลังก่อตัว

และเริ่มหนาแน่นขึ้นมา  ทุกคนพยายามเอาชีวิตรอดด้วยการกรูไปยังทางเข้า-ออกของผับ    ซึ่งคับแคบ

และมีเพียงทางเดียวเท่านั้น    ทำให้ผู้คนต่างเบียดและดันกัน พร้อมเสียงตะโกนดังระงมไปทั่วบริเวณ

ซานติก้าผับแดนสวรรค์ได้แปรเปลี่ยนเป็นแดนแห่งทะเลเพลิง   เสียงร้องโหยหวลชวนสยองใจอย่างยิ่ง

ต่อมา   รถดับเพลิงและรถอาสากู้ภัย กว่า 20 คัน  ระดมมาฉีดน้ำสกัดไฟ และเจ้าหน้าที่ผจญเพลิง

ได้เข้าไปช่วยเหลือผู้คนที่ติดอยู่ด้านใน   แต่ก็ช่วยได้เพียงบางส่วนเท่านั้น เพราะผับมีการออกแบบด้วยรูป

ทรงที่แปลกประหลาด   เป็นอุปสรรคต่อการช่วยเหลือเป็นอย่างมาก เมื่อเพลิงสงบสิ่งที่หลงเหลือให้เห็น

คือ   ศพที่นอนทับถ้มเบียดเสียดกันอยู่  และถูกไฟคลอกดำเป็นตอตะโก       สร้างความหดหู่ใจอย่างมาก

บางศพถูกไฟคลอกจนดำนอนทับถมเบียดเสียดกัน   และบางศพเกิดจากการสำลักควัน ขาดอากาศหายใจ 

หรือแม้แต่ถูกเหยียบจนตายก็มี   ส่วนผู้ที่บาดเจ็บกว่า 200 คน    ได้ถูกลำเลียงส่งยังโรงพยาบาลต่าง ๆ

คนที่รอดชีวิตออกมาจากผับนรกนี้ได้ แต่ก็มีชีวิตเหมือนตายทั้งเป็น  อันเนื่องจากบาดแผลที่สาหัสเกินรับได้

รูปกายผิดแผกไปจากปกติ  ต้องใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก  เหตุการณ์สยองนี้  คงเป็นเครื่องเตือนใจสำหรับนักท่องราตรี  และผู้ประกอบการประเภทนี้ได้เป็นอย่างดี    และหวังว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก

ขอขอบคุณ ภาพและข้อมูลจาก น.ส.พ. ไทยรัฐ , pantip.com