เศรษฐีผู้หนึ่งไปเที่ยวซาฟารีในแอฟริกา และเขาได้นำสุนัขดัชชุนตัวโปรดไปด้วย
วันหนึ่งเจ้าดัชชุนออกไปวิ่งเล่นไล่ตามผีเสื้อจนตัวเองหลงเข้าไปในป่าลึก มันมองไปรอบๆและสิ่งที่เห็นก็คือ เสือดาวตัวใหญ่ตัวหนึ่งสภาพหิวโซที่กำลังค่อยๆย่องเข้ามาหา เพื่อที่จะขย้ำมันเป็นอาหารกลางวัน
เจ้าหมาน้อยคิด "ตายล่ะหว่า ทำยังไงดี"
ทันใดนั้นมันมองเห็นกระดูกชิ้นโตชิ้นหนึ่ง มันจึงนั่งลงแล้วกัดกินกระดูกนั้นโดยหันหลังให้กับทางเจ้าเสือดาว และเจ้าหมาน้อยก็พูดเสียงดังขึ้นว่า
"แหม เจ้าเสือดาวนี่มันอร่อยดีจริงๆ แถวนี้จะมีอีกสักตัวไหมนี่"
ได้ยินดังนั้น เจ้าเสือก็หันหลังกลับวิ่งโกยแน่บไปยังอีกฝั่งของป่า "อุ๊ย เกือบไปแล้วเรา"
ในขณะนั้นเจ้าลิงที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด จึงนำเรื่องจริงไปบอกกับเจ้าเสือ พร้อมกับต่อรองข้อตกลงว่า ถ้าบอกความจริงให้รู้ เสือดาวจะต้องไม่จับมันกินอีกต่อไป
หลังจากที่เสือดาวตกลงและได้รู้ความจริง
มันโกรธมากและกล่าวว่า
"มาเจ้าลิงขึ้นหลังข้างมา แล้วคอยดูนะว่าไอ้หมาเจ้าเล่ห์จะโดนอะไร"
หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าหมาน้อยก็เห็นเสือดาวมากับเจ้าลิงที่นั่งอยู่บนหลัง มันรู้ทันทีว่ากำลังจะเจอกับอะไร
แต่แทนที่มันจะวิ่งหนี มันกลับนั่งลงหันหลัง ทำเป็นมองไม่เห็น รอจนทั้งสองตัวเข้ามาใกล้ๆ แล้วจึงพูดด้วยเสียงอันดังว่า
"ไอ้ลิงโง่มันหายไปไหนนะ ส่งให้มันไปหลอกเจ้าเสือดาวมาที่นี่ตั้งครึ่งชั่วโมงแล้ว โอ๊ย หิวจนแสบท้องไปหมดแล้ว"
..........................
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ไม่สำคัญว่าไพ่ในมือนั้นจะเป็นอย่างไร แต่มันสำคัญที่เราจะเล่นมันอย่างไรต่างหาก..
ในชีวิตจริง เราเองต่างก็เคยต้องตกอยู่ในสถานการณ์เฉพาะหน้าเหล่านี้ สำคัญที่สุดเลย คือการมีสติ เพราะ สติทำให้เกิดปัญญา และปัญญาจะนำพาให้เรารอดจากเหตุการณ์เหล่านั้นครับ..
เครดิตจาก สมุดปกขาว..เพจ เจาะเวลาหาอดึต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น