ruch sattahip (ทองแป๊ะ): มหันตภัยไฟป่าออสเตรเลีย

ไฟป่าออสเตรเลียที่ลุกไหม้มาตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะดับได้ง่ายๆ อีกทั้งยังลุกลามมากขึ้น พื้นที่ที่ถูกไฟลุกลามมีมากกว่า 12.35 ล้านเอเคอร์ และมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 17 คน โดยพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดอยู่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ และวิกตอเรีย
.
ไม่เพียงแค่พื้นที่ป่า ที่อยู่อาศัยเท่านั้นที่ได้รับความเสียหาย สัตว์ป่าจำนวนมากก็ล้มตายจากเหตุการณ์ไฟป่าในครั้งนี้เช่นเดียวกัน ล่าสุดนักนิเวศวิทยาจากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ประมาณการณ์ว่า มีสัตว์ป่าที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ไฟป่าครั้งนี้ตั้งแต่เริ่มแรกจนถึงปัจจุบันประมาณ 480 ล้านชีวิต โดยในจำนวนนี้ เป็นโคอาล่า สัตว์พื้นถิ่นที่อาศัยอยู่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ถึง 8,000 ตัว เนื่องด้วยนิวเซาท์เวลส์เป็นรัฐที่ได้รับความเสียหายจากไฟป่ามากที่สุด มีพื้นที่ที่ไฟลุกลามกว่า 10 ล้านเอเคอร์เลยทีเดียว

“โคอาล่า มันเคลื่อนไหวช้าเกินกว่าจะหนีทันไฟที่ลุกไหม้” มาร์ก แกรมห์ นักนิเวศวิทยาจากสถาบันการอนุรักษ์ธรรมชาติกล่าว
.
มีการคาดการณ์กันว่าจำนวนโคอาล่าที่ตายในไฟป่าครั้งนี้ถือเป็น 30% ขอโคอาล่าที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ นอกจากโคอาล่าแล้ว จิงโจ้ สัตว์สัญลักษณ์ประจำประเทศออสเตรเลียก็เป็นสัตว์อีกชนิดที่มีรายงานและภาพถ่ายให้เห็นว่าเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมากจากเหตุการณ์ไฟป่าครั้งนี้ รวมไปถึงแมลงจำนวนมากที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศก็ได้รับผลกระทบอย่างมากเช่นเดียวกัน
.
“จากเหตุการณ์ไฟป่าครั้งนี้ เราได้รับบทเรียนอย่างมาก และมันก็ฟ้องว่าเราไม่ได้เตรียมการกันเลย ไม่มีขั้นตอน มาตรการใดๆ ในการรับมือไฟป่าหรือจัดการเรื่องอื่นๆ ในแต่ละพื้นที่ แม้แต่ผู้ดูแลสัตว์ป่าก็ไม่รู้ว่าทำอย่างไรเมื่อไฟดับลงแล้ว” ดร.เคลลี่ ลีห์ จากสถาบันวิทยาศาสตร์เพื่อสัตว์ป่า กล่าว
.

การนับจำนวนสัตว์ป่าที่เสียชีวิต โดยเฉพาะโคอาล่าเป็นการยาก เพราะสัตว์ป่าหลายตัวที่ถูกไฟไหม้เสียชีวิตจนไม่พบซากที่เผาไหม้ การช่วยเหลือสัตว์ป่าก็เช่นเดียวกัน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปในบริเวณที่ไฟไหม้ได้ อีกทั้งสัตว์ป่าหลายตัวก็ไม่สามารถจะหนีออกมาได้ ไม่ว่าจะด้วยถูกไฟล้อม หรือเคลื่อนไหวช้าอย่างโคอาล่าก็ตาม ทำให้จำนวนการสูญเสียเพิ่มมากขึ้น
.
ซึ่งหลังจากการที่โรงพยาบาลเมืองพอร์ท แมคควารี ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ รับโคอาล่ามารักษาตามที่เคยเป็นข่าวก่อนหน้านี้ ก็มีการตั้งศูนย์และอาสามัครในการช่วยชีวิตสัตว์ป่าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะองค์กร Wildlife Information, Rescue and Education Services แต่ถึงอย่างนั้นก็มีสัตว์ป่าที่หลุดรอดออกมาจากไฟป่าได้น้อยมาก ด้วยเพราะไฟป่านั้นลุกโชนและโหมกระหน่ำเป็นอย่างมาก